วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การประมาณเวลาตายของศพจากแมลงที่พบ




เมื่อมีการตรวจพบแมลงที่ศพ เราสามารถดูระยะเวลาการเจริญเติบโตของแมลงเหล่านั้น
เพื่อนำมาใช้ในการประมาณระยะเวลาการตายของศพได้ เริ่มจาก

1. ทำการเก็บตัวอย่างแมลงเหล่านั้นที่พบจากศพ

2. นำแมลงบางส่วนไปรักษาสภาพโดยการดองใส่แอลกอฮอล์ไว้และ
นำแมลงที่เหลือไปเลี้ยงให้ครบวงจรชีวิต
ส่วนใหญ่แล้วมักจะตรวจพบแมลงจากศพในระยะตัวอ่อน
ก็ให้เลี้ยงจนกลายเป็นตัวเต็มวัยและออกลูกมาอีกรุ่นหนึ่ง

3. นับระยะเวลาการเจริญเติบโตของแมลงรุ่นลูกนี้ตั้งแต่ระยะไข่
จนกระทั่งกลายเป็นตัวอ่อนที่มีขนาดเท่ากับแมลงรุ่นแรก
ที่ดองเก็บไว้หลังจากเก็บมาจากศพ จะทำให้ทราบระยะเวลการเจริญเติบโตของแมลง
ที่พบในซากศพได้ และจึงทำให้สามารถประมาณระยะเวลาหลังการตายของศพได้เช่นกัน


สำหรับนักกีฏวิทยาจะให้ความสำคัญกับชนิดของแมลงที่ตรวจพบจากศพ
เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาความแพร่หลายของแมลงในประเทศ





วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วงจรชีวิตของแมลง

ความรู้ทางด้านนิติกีฏวิทยา นำมาใช้ประกอบการสืบสวนคดี
โดยศึกษาจากระยะเวลาการเจริญเติบโตของแมลงที่พบอยู่กับซากศพนั้นๆ
แมลงที่ตรวจพบตามซากศพได้มากที่สุดคือ แมลงวัน รองลงมาคือ ด้วง




แมลงวัน
แมลงวัน (Order Diptera) เป็นแมลงที่มีการถอดรูปสมบูรณ์แบบ
วงจรชีวิตแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่







1. ระยะไข่ - ไข่ของแมลงวันมีขนาดเล็ก รูปร่างยาวรี
ระยะในการฟักตัว 6-12 ชั่วโมง

2. ระยะตัวอ่อน (หนอน) - ตัวอ่อนของแมลงวันมักถูกเรียกว่า Maggot
รูปร่างยาว ไม่มีขา ปลายด้านท้องใหญ่แต่ส่วนหัวเรียวเล็ก
มีปากที่แหลมและแข็งเรียกว่า mouth hook ใช่ในการกินอาหารและเคลื่อนที่
โดยตัวอ่อนของแมลงวันจะแบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะเวลาการเจริญเติบโตในแต่ละระยะคือ 12-24 ชั่วโมง
ความยาวโดยเฉลี่ยตั้งแต่ระยะที่ 1 ถึง 3 คือ 0.1-2 เซนติเมตร
3. ระยะดักแด้ - ตัวอ่อนของแมลงวันจะหดความยาวของลำตัวให้สั้นลง
และเริ่มสร้างสารที่ทำให้ผนังลำตัวมีความแข็ง และสีของผนังลำตัว
จะเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสีขาวครีมเป็นสีน้ำตาลปนแดง แต่เมื่อ
ดักแด้แก่เต็มที่ผนังลำตัวจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
ระยะเวลาในการเข้าดักแด้ประมาณ 5-11 วันแล้วแต่ชนิด

4. ระยะตัวเต็มวัย - มีอายุเฉลี่ย 15-30 วัน




ด้วง
ด้วง (Order Coleoptera) มีการถอดรูปคล้ายกับแมลงวัน
วงจรชีวิตแบ่งเป็น 4 ระยะ เช่นกัน


1. ระยะไข่ - ไข่ของด้วงมีทั้งรูปร่างและสีต่างกันตามชนิดของด้วง
ระยะเวลาในการฟักตัว 1-12 วัน

2. ระยะตัวอ่อน - ตัวอ่อนของด้วงส่วนใหญ่เป็นแบบ Campodeiform
หมายถึง ตัวอ่อนจะมีลำตัวยาวค่อนข้างแบน ขาจริง เคลื่อนไหวเร็ว
หนวดและแพนหางเจริญดี แต่มีบางชนิดเป็นแบบ Scarabaeiform
หมายถึงตัวอ่อนที่ชอบงอลำวคล้ายรูปตัว C ขาจริงสั้น ไม่มีขาเทียม
เคลื่อนไหวช้า มักเรียกตัวอ่อนแบบนี้ว่า grubs
ระยะเวลาในการเจริญเติบโตประมาณ 6-130 วัน ขึ้นกับชนิดของด้วง
3. ระยะดักแด้ - ดักแด้มักเป็นแบบ exarate หมายถึง ดักแด้ที่มีรยางค์
ส่วนขาและปีกเจริญอยู่ภายนอกลำตัว ไม่มีรังดักแด้มาหุ้ม
ระยะเวลาในการเจริญเติบโตประมาณ 7-30 วัน ขึ้นกับชนิดของด้วง

4. ระยะตัวเต็มวัย - มีลักษณะเด่นคือปีกคู่แรกเป็นแบบ elytra
มีลักษณะเป็นแผ่นหนังหนาไม่ใช่ในการบินและมีปีกคู่หลัง
เป็นเยื่อบางใช้ในการบิน

กลุ่มของแมลงที่พบจากศพ


แมลงที่ตรวจพบได้จากซากสิ่งมีชีวิต มี 3 กลุ่ม ดังนี้

1. Necrophages กลุ่มที่เข้ามากินอาหารจากซากของสิ่งมีชีวิต
2. Necrophiles กลุ่มที่เข้ามากินแมลงในกลุ่มแรก
3. Omnivores กลุ่มที่เข้ามากินอาหารจากซากสิ่งมีชีวิตและแมลงในสองกลุ่มแรก

แมลงจะถูกตรวจพบได้ต่างกันตามอัตราการย่อยสลายของสิ่งมีชีวิต ดังนี้

บนบก แบ่งเป็น 5 ระยะ


1. Initial decay มีการตกตะกอนของเลือดตามแรงโน้มถ่วงของโลก
2. Putrefaction มีการบวมอืดเนื่องจากมีการสะสมแก๊สในช่องท้องจำนวนมาก
3. Black putrefaction มีการหลุดลอกของผิวหนังชั้นนอกและน้ำเหลืองเริ่มไหลซึม
4. Butyric fermentation ผิวหนังเริ่มแห้ง แต่อวัยวะภายในยังย่อยไม่หมด
จะมีลักษณะเน่าเละ
5. Dry decay จะแห้งเหลือเป็นโครงกระดูก


ในน้ำ แบ่งเป็น 6 ระยะ


1. Submerged Fresh เริ่มบวมอืดเพราะมีการสะสมแก๊สเพิ่มขึ้น
2. Early Floating ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมเขียว
3. Floating Decay ผิวหนังเริ่มมีสีดำและหลุดลอกออก
4. Bloated Deterioration ผิวหนังเริ่มเปื่อยและหลุดออก ข้อต่อต่างๆ เริ่มหลุด
5. Floating Remains กระดูกนิ้วมือ นิ้วเท้าเริ่มหลุด
6. Sunken Remains เหลือแต่โครงกระดูก



วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ที่มาของการใช้หนอนจากศพ (นิติกีฏวิทยา)


การนำความรู้ทางด้านแมลงเข้ามาใช้ในการสืบสวนคดีนั้น จะเรียกกันว่า นิติกีฏวิทยา
โดยจะนำมาช่วยในการประมาณระยะเวลาหลังการตายของศพ
นอกเหนือจากความรู้เบื้องต้นที่แพทย์นิติเวชใช้ในการระบุเวลาการตาย
เช่น การตกตะกอนของเลือดตามแรงโน้มถ่วงของโลก การแข็งตัวของศพ เป็นต้น


แต่หากศพที่ตายมาเป็นระยะเวลานานแล้ว
หลักฐานต่างๆ เหล่านี้จะไม่สามารถระบุเวลาการตายที่แน่นอนได้
จึงต้องมีการนำความรู้ในด้านอื่นๆ เข้ามาช่วยในการชันสูตรพลิกศพ
และความรู้ทางด้านนิติกีฏวิทยาก็ได้กลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งจวบจนปัจจุบันนี้


ความรู้ทางด้านนิติกีฏวิทยานี้ถูกนำมาใช้ในการสืบสวนคดีครั้งแรกตั้งแต่ใน ค.ศ.1235
ได้มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศจีน
สันนิษฐานกันว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นเคียวเกี่ยวข้าว
แต่จากการสอบสวนไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้เลย


เจ้าหน้าที่จึงให้ชาวบ้านไปนำเคียวเกี่ยวข้าวของตนมาวางที่ลานโล่ง
ปรากฎว่ามีแมลงวันบินมาตอมที่เคียวเกี่ยวข้าวเพียงแค่เล่มเดียว
อาจจะเพราะว่ามีคราบเลือดหรือเศษเนื้อเยื่อของผู้ตายติดอยู่
สุดท้ายแล้วเจ้าของเคียวเกี่ยวข้าวเล่มนั้นก็ยอมรับสารภาพว่า
เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมครั้งนี้ขึ้น..........




วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คำขอบคุณและอโหสิกรรม


ก่อนจะเข้าเรื่องที่มีสาระกัน เราขอขอบคุณผู้สนับสนุนของเราทุกๆ ท่าน
ที่อยู่เบื้องหลังและเบื้องหน้าในการทำงานวิจัยเรื่องแมลงจากศพของเรามาโดยตลอด
เริ่มจากพ่อและแม่ หนูภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่นะคะ
พ่อกับแม่เป็นครูของหนูและเด็กคนอื่นๆ อีกมากมาย
(ก็แหงสิ........พ่อกับแม่รับราชการครูทั้งคู่เลยนี่)

ท่านทั้งสองยืนเคียงข้างเราทุกครั้งที่มีปัญหาในการทำงานวิจัยครั้งนี้
แม่ผู้ซึ่งยืนข้างๆ ตอนเลี้ยงหนอนจากศพแรกเมื่อตอนสี่ทุ่ม
และตอนยืนจับแมลงวันเมื่อตอนตีสี่ เป็นเวลาที่เลือกทำการได้ดีมาก เงียบสงัด
และพ่อผู้ซึ่งขับรถไปรอรับหนูที่สถาบันนิติเวชทุกครั้งที่ศพมีหนอนเข้า
รวมทั้งคอยปลอบใจหนูเวลาหนูร้องไห้นะคะ........

งานวิจัยครั้งนี้ แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและหยดน้ำตาของเราโดยแท้
(อายจัง.....โตแล้วยังอ้อนพ่ออยู่เลย)

ขอบคุณญาติพี่น้องทุกคน ได้แก่ ป้าๆ ที่อเมริกาที่ช่วยหาหนังสือ
Forensic Entomology BUGS&BODIES
และส่งมาเป็นของขวัญให้หนูนะคะ....................
ขอบคุณป้ายีนกับค่าเล่าเรียนป.โทของหนูในสองเทอมแรก
(ค่าเทอมโคตรจะแพงเลย........ขอบอก)
ขอบคุณพี่ชายที่ขับรถพาไปส่งที่กระทรวงสาธารณสุข
เพื่อให้เราไปคุยเรื่องแมลงกับดร.ที่กองกีฏการแพทย์

ขอบคุณเจฟ (นายวัชรวีย์ จันทร์ประเสริฐ) มหาวิยาลัยขอนแก่น
น้องผู้ร่วมอุดมการณ์ที่คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำต่างๆ
รวมทั้งกำลังใจเวลาท้อแท้นะ.......ขอบคุณจริงๆ

ขอบคุณคุณหมอที่สถาบันนิติเวชที่โรงพยาบาลตำรวจ
ที่อนุญาตให้เราเข้าไปเก็บข้อมูลแมลงจากศพ 40 ศพ นานถึง 8 เดือน
ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤศจิกายน 51 และคอยสอนเรื่องสภาพศพต่างๆ
พี่ตำรวจที่นิติเวชทุกคนที่คอยช่วยลุ้นอยู่ข้างๆ และจับแมลงให้บางเวลา
รวมทั้งพี่ๆ ที่กองพิสูจน์หลักฐานด้วยที่คอยโทรตามและเอื้อเฟื้อรูปภาพให้

ขอบคุณอ.สมคิด แก้วมณี นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ รพ.ศิริราช
หนูรักอ.เหมือนแม่คนที่สองเลยนะคะ ไม่มีอ.งานหนูคงไม่ได้แบบนี้
ขอบคุณความเมตตาที่อ.มีให้หนูมาโดยตลอด ซาบซึ้งมากเลยคะ
หนูจะไม่ลืมพระคุณของอ.เลยนะคะ..............
ขอบคุณ คุณหมอดาราวรรณ วนะชิวนาวิน ที่ช่วยตรวจทานแก้งานให้หนู
ขอบคุณอ.จันทร์ดี ระแบบเลิศ ที่คอยสอนเรื่องการนำเสนองานให้
และอ.ธงชัย เตโชวิศาล ที่คอยปรับแก้เนื้อหาภาษาอังกฤษให้

เราขออโหสิกรรมให้อ.ท่านหนึ่งคนที่เราเคยขอให้เขาเป็นที่ปรึกษา
แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึงสองเดือน งานเราไม่เดินเลย
เขาสอนให้เราเลี้ยงหนอนจากศพด้วยปลาเค็ม.......
ศพแรกที่เราได้หนอนมา ทำตามคำสอนเขา
ตายเรียบ (เพราะคำสอนมั่วๆ)
วันๆ ไม่ว่างจะคุยเรื่องแมลงกับเราเลยสักนิด
โทรหาแต่ละที....ไม่ว่าง
แต่พอว่างที กลับคุยแต่เรื่องจดหมายเชิญเขาเป็นอ.ที่ปรึกษา
สนแต่เรื่องนี้อ่ะ แล้วข้อมูลทางแมลงเราก็หาเองหมด
เขายังบอกให้เราส่งให้เขาด้วยเลย.................
สุดท้ายเราทนไม่ไหว ที่ผ่านมาวิ่งงานคนเดียว
เขาไม่มีส่วนร่วมอะไรเลย เราก็เลยยอมอ่ะ เป็นไงเป็นกัน
ถอดเขาออกจากตำแหน่งอ.ที่ปรึกษาซะเลย.............
ทีนี่ไม่ยอมออกง่ายๆ โทรมาฟ้องรองคณบดีกับประธานที่ปรึกษาเราว่า
เราอ่ะ เป็นเด็กไม่กระตือตือร้นในการทำงาน ขยะแขยงหนอนจากศพ
กะให้คนอื่นทำ Lab ให้ แล้วเรารอเอาแต่ผล............
เขาอ่ะ เป็นคนหาข้อมูลให้ทั้งหมด แล้วมาถอนเขาออกเฉยเลย
จะเอาหลักฐานไหมคุณ........เราเก็บไว้หมดนะ
ในเมลล์อ่ะ หัวข้อทุกอันที่คุณบอกว่าหาให้น่ะ
มันคือเราหาและส่งให้คุณเองทั้งนั้น
ไปนั่งดูในกล่องข้อความเข้าซะนะ อย่าบอกว่าดูไม่เป็น
แล้วเรื่อง Lab ไปถามที่คณะแพทย์ฯ ของศิริราช
กับสถาบันนิติเวชตำรวจนะ ว่าเราให้คนอื่นทำให้จริงไหม

หยุดทำลายชื่อเสียงของเราซะที........ต่างคนต่างอยู่
อะไรที่ผ่านมาแล้วให้ผ่านไป และคุณอ่ะ.......
ควรจะท่องจรรยาบรรณของการเป็นครูให้ขึ้นใจก่อนเกษียณด้วยนะ
พ่อแม่เราเองก็เป็นครู ยังอายกับการกระทำของคุณเลย ช่างทำไปได้
คนเป็นผู้ใหญ่หรือว่าเป็นอาจารย์ ใช่ว่าเขาจะถูกเสมอไป
ที่ผ่านมาเราจะอโหสิกรรมให้นะ เพราะเราถือว่าเราเรียนจบแล้ว
แม้อาจจะโดนคุณขัดขวางมาตลอดก็เถอะ อย่าคิดว่าเราไม่รู้......

....ใครมีบุญคุณกับเรา เราเทิดทูนท่วมหัว แต่ถ้าไม่มีอย่ามาแสดงตัวว่ามี....

ขออโหสิกรรมจากเหล่าแมลงทั้งหลายที่เสียสละเพื่องานวิจัยครั้งนี้ของเรา

ก่อนจะมาเจอแมลง....


เดิมทีชอบเรียนอะไรเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์
เพราะรู้สึกมันนึกภาพตามจากตัวเราเองได้ง่าย
ป.ตรีเลยเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา ที่ มศว.
การเรียนป.ตรีตอนนั้นก็เหมือนไปเจอเพือนมากกว่าไปเรียน (จำเริญไหม)


ผลการเรียนก็ระดับกลางๆ ไม่ได้เด่นดังกว่าใคร...จนเรียนจบ
ก็ไปนั่งหาข้อมูลเพราะอยากเรียนต่อป.โท
แล้วก็ไปเจอเกี่ยวกับสาขาวิชานิติวิทยาศาสตร์
รู้สึกอยากเรียน เพราะทุนเดิมชอบดู CSI
พวกพี่ที่เรียนด้วยกันก็ดูเรื่องนี้กันทั้งนั้นแหละ ฮิฮิ


การเรียนสาขานี้ทำให้เริ่มค้นพบตัวเองมากขึ้น
ตอนนั้นคิดจะหางานไปด้วยและเรียนไปด้วย
เลยไปนั่งดูว่าสาขาวิชานี้เขาขาดแคลนบุคลากรในเรื่องใด
แล้วก็ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณหมอท่านหนึ่ง
ท่านบอกว่าสาขานิติวิทยาศาสตร์นั้นยังขาดคนที่เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกและแมลง


ตอนนั้นคิดเลยเอากระดูกดีกว่า...................
เพราะเหมือนเคยมีความรู้ผ่านติ่งสมองมานิดนึงตอนเรียนป.ตรี
แต่แล้วก็ไม่ได้ทำ เพราะมีคนทำเรื่องแนวนี้ไปซะก่อน
เลยต้องหันกลับมามองแมลง ถามว่ารู้จักแมลงไหม รู้สิ...
ก็พวกแมลงสาปที่ชอบทำให้แม่วิ่งกระเจิงไง 555+ (เป็นลูกที่ดี ขายแม่)


แล้วเรื่องแมลงที่เกี่ยวข้องกับสาขานิติวิทยาศาสตร์หล่ะ ใช้ทำอะไรได้บ้าง
นึกได้เรื่องเดียวแหละ คือ นำมาใช้ประมาณเวลาหลังการตายของศพ
เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็นั่งหาข้อมูลทันที.....แล้วก็ไปเจอะหนุ่มน้อยหน้ามนคนหนึ่งเข้า
เจฟนั่นเอง ก็ถ้าไม่มีเจฟ งานวิจัยนี้คงไม่สานต่อเหมือนกัน
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกอย่างรวมทั้งกำลังใจ

และความรู้มากมายในเรื่องนี้ที่มีให้เสมอมานะจ๊ะ